วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562

การทบทวนตนเองหลังการสอนที่มีคุณภาพ


การทบทวนตนเองหลังการสอนที่มีคุณภาพ
การทบทวนตนเองหลังการสอนเป็นกระบวนการที่เหมาะกบการปฏิบัติงานในอาชีพั เพราะเป็น กระบวนการที่ควรปฏิบัติเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์กระบวนการนี้มิใช่จะจําเป็นเฉพาะกบการสอนที่ดีัเท่านั้น แต่ยังเป็นความจําเป็นพื้นฐานสําหรับมนุษย์ด้วย                                         บอเม สเตอร์(Baumeister, 1991) กล่าวว่า ชีวิตมีความหมายเมื่อเราสนองความต้องการ 4 ประการ เหล่านี้ได้แก่1) ด้านวัตถุประสงค์2)ด้านค่านิยม 3) ด้าน ประสิทธิผล และ4) ด้านความพึง พอใจในตนเอง
การทบทวนตนเองหลังการสอนช่วยให้เราเข้าใจการเรียนการสอน คําว่า“การทําความ เข้าใจ” Weick, (1995) กล่าวว่า การทําความเข้าใจเป็นความคิดและกระบวนการที่ซับซ้อน
“ความเข้าใจ” ยังหมายถึง การเพิ่มความระมัดระวังในการมีปฏิสัมพันธ์ในกลุ่มและใน สภาวะ แวดล้อมที่เราสอน ชั้นเรียนของเราเป็นสภาวะแวดล้อมของการเรียนการสอนที่พิเศษ เพราะเราสร้างสภาวะ แวดล้อมขึ้นมาและเราก็สามารถแกไขเปลี่ยนแปลงได้้แต่อยางไรก่็ตาม สภาวะแวดล้อมที่มีผลกบวิธีการสอนั ของเราด้วย เชน่ ในห้องเรียนขนาดเล็กและแออัดกิจกรรม ที่ทําได้ก็จะเป็นเพียงประเภทที่ไม่ต้องใช้โต๊ะ
“ความเข้าใจ” มิได้เป็นเพียงกระบวนการสนทนากบตัวเองเกั่ียวกบเรื่องการสอนเทั่านั้นแต่ เก่ียวข้อง กบการได้ความรู้จากการสนทนากับเพื่อนครูด้วยกันั และเปลี่ยนประสบการณ์กนและั กนั กระบวนการนี้เป็น กระบวนการต่อเนื่องที่ต้องการความเป็นคนช่างสังเกต ต้องสังเกตความ เป็นไปในอาชีพถ้าเห็นว่ามีอะไร เกิดขึ้น ต้องหาเหตุผลมาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นได้เช่น ต้อง สังเกตเห็นว่าเด็กคนไหนพูดคุยกนอยูัตลอดเวลา่ เด็กคนไหนจับดินสอไม่ถูกวิธีคนไหนรักการ อ่าน คนไหนเก่งทดลองวิทยาศาสตร์และคนไหนใช้เครื่อง บันทึกเทปได้เก่ง
การทบทวนตนเองหลังการสอนจึงเป็นเรื่อง“การทําความเข้าใจ” ดังภาพประกอบที่7
           ภาพประกอบที่7 การทําความเข้าใจ การทบทวนตนเองหลังการสอน ผลลัพธ์ที่มีคุณค่า ปรับจากAnthony Ghave and Kay Ghaye (1998) Teaching and learning through critical

reflective practice อุสุมา ชื่นชมพู ผู้แปล2546: 22)
รูปแบบการสะท้อนความคิดนี้มีลักษณะเด่น 4 ประการ คือ เป็นวงจรมีความยืดหยุน่ มี
ประเด็นที่ เน้น และมีลักษณะเป็ นองค์รวม
1. มีลักษณะเป็นวงจรการทบทวนตนเองและการปฏิบัติเป็นกระบวนการที่ดําเนินต่อเนื่องกนั เป็นวงจรเมื่อกระบวนการเริ่มแล้วจะไม่มีการถอยหลังกลับไปสู่จุดเริ่มต้น พูดให้ ชัดเจนยิงขึ่้นก็คือ การทบทวนตนเองหลังการสอน จะนําเราไปสู่วงจรใหม่ที่ปรับปรุงแล้วต่อไป
2. มีความยืดหย่นุ รูปแบบที่จะนําใช้จําเป็นจะต้องมีความยืดหยุน่ จะต้องไม่เป็นแบบที่มี ลักษณะ เป็นขั้นตอน เหตุผลที่เป็นเช่นนี้มีอยู่2 ประการ คือ
ประการแรก การทบทวนตนเองหลังการสอนมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกนั เช่น
ครูคนหนึ่งอาจจะเริ่มต้นเมื่อเกิดความรู้สึกคับข้องใจที่ไม่สามารถใช้วิธีการที่ตนเอง
ต้องการเพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนได้เนื่องจากเพื่อน แตกต่างกนั ออกไป พวกเขาไม่เข้าใจว่าวิธีการนี้จะใช้ให้สัมฤทธิ์ผลได้อยางไร่
            ครูอีกคนหนึ่งอาจคิดทบทวนสิ่งซึ่งเขาได้ทดลองใช้กบนักเรียนของเขา(งานเขียนซึ่งครูั
และนักเรียนทําร่วมกน)และคิดวั่าเหตุใดจึงไม่ได้ผลคู่อีกคนหนึ่งอาจเริ่มจากสิ่งที่เชื่อว่า
จําเป็นต้องใช้ (เขาต้องการเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียน)
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถหามาได้
         ครูอีกคนหนึ่งที่สอนอยูในโรงเรียนเล็กๆ่ ในชนบทอาจต้องการสร้างความสัมพันธ์กบั คนอื่นๆ ในละแวกเดียวกนั ตลอดจนกบธุรกัิจต่างๆ หรือบริษัทห้างร้านในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น จุดเริ่มต้นที่แตกต่างกนมาจากคั่านิยมของครูและวิธีการทํางานของครูในการที่จะผลักดันสิ่ง ต่างๆ ให้เกิดขึ้น และ จะมปรงสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น หรือค่านิยมเก่ียวกบโรงเรียนในชุมชนที่กว้างขึั้น
ประการที่สอง รูปแบบการทบทวนตนเองต้องมีความยืดหยุนเพื่อให้สอดคล้องก่บวิธีการ
การปรับปรุงการเรียนการสอนไม่จําเป็นต้องดําเนินไปในรูปแบบที่คงที่และมีขั้นตอนเป็น ลําดับ เช่น
         ครูคนหนึ่งอาจเลือกที่จะทบทวนวิธีการสอนของเขาก่อน สิ่งหนึ่งที่เขาอาจจะเรียนรู้จาก การทบทวนตนเองก็คือ เขาเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดเองทําเองน้อยเกินไป เขามักจะคอยชี้แนะ ควบคุม และ สอนหรือบอกเด็กตรงๆ เมื่อรู้เช่นนี้เขาอาจลองทบทวนคานิยมหรือความเชื่อของ ตนเอง (หากต้องการ เปลี่ยนแปลงวิธีสอน) แล้วหลังจากนั้นอาจจะทบทวนต่อไปว่าจะปรับปรุง การสอนและการเรียนรู้ของเด็กอยางไร่
         ครูคนอื่นอาจจะเริ่มที่การทบทวนถึงสภาวะแวดล้อมซึ่งก็คือโรงเรียนที่เขาสอน โรงเรียน อาจจะตั้งอยูในย่านยากจนชานเมือง่ ความสัมพันธ์ระหว่างครูและผู้ปกครองอาจจะไม่ค่อยมีใน กรณีเช่นนี้ควรจะต้องมีการพัฒนาความสัมพันธ์กบชุมชนั และโรงเรียนจะต้องเพิ่มบทบาทของ ตนเอง ต้องหาเงิน เพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาบุคลากร เป็นต้น จากการทบทวนสภาวะแวดล้อมอาจจะ ตามมาด้วยการพิจารณาว่าสภาวะ แวดล้อมมีผลกระทบต่อการสอน ได้อยางไรบ้าง่ ซึ่งอาจจะ ย้อนไปสู่เรื่องค่านิยมของครูและโรงเรียนใน ภาพรวม ดังนั้นค่านิยม การปฏิบัติการปรับปรุง และสภาวะแวดล้อม จึงเป็นสิ่งสําคัญที่จะต้องทบทวน ส่วน ลําดับขั้นตอนในการคิดนั้นแตกต่าง กนออกไปในแตั่ละบุคคล
3. มีประเด็นที่เน้นกามีความยืดหยุน่ มิได้หมายความว่าจะคิดวกวนอยูก่บปัญหาเกั่ียวกบั การสอนหรือวิตกกงวลในเรื่องดังกลั่าวโดยหวังว่าครูจะพบทางออกเอง การคิดจะต้องมีประเด็น ที่เน้นและมีทิศทางเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีความหมาย ในการนี้ควรใช้รูปที่1.1 เป็ นแผนที่เพื่อช่วยชี้ทิศทางและจํากดความสนใจั รูปแบบดังกล่าวจะช่วยให้เห็นทิศทางโดยรอบ และเห็น หนทางต่างๆ ที่อยูเบื่้องหน้าช่วยให้เข้าใจ จุดสําคัญทางการศึกษาที่จําเป็นจะต้องสํารวจ รูปแบบ นี้มีส่วนที่ควรจะพิจารณา 4 จุด คือ ค่านิยม การปฏิบัติการปรับปรุงและสภาวะแวดล้อม โดยครู จะเลือกพิจารณาุดใดก็ได้ขึ้นอยูกับความสนใจั แผนการพัฒนาอาชีพของตนเอง และปัญหา ต่าง ๆ
4. มีลักษณะเป็ นองค์รวมจากรูปนี้เราจะมองเห็นการเรียนการสอนภาพรวม เห็นการ เชื่อมโยง ค่านิยมในวิชาชีพเข้ากบการปฏิบัติัการเชื่อมโยงการสอนเข้ากบความตัั้งใจของครูที่จะ พัฒนาการเรียนรู้และนาอาชีพ ทําให้ครูเห็นว่าไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปแบบนี้ทํางานอยู่ ในสภาพหยุดการเปลี่ยนแปลง แต่เป็นการทํางานอยูในสภาวะแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงและ่ มักจะมีความไม่แน่นอนรวมอยูด้วย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น