การทบทวนตนเองหลังการสอนที่มีคุณภาพ
การทบทวนตนเองหลังการสอนเป็นกระบวนการที่เหมาะกบการปฏิบัติงานในอาชีพั
เพราะเป็น กระบวนการที่ควรปฏิบัติเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์กระบวนการนี้มิใช่จะจําเป็นเฉพาะกบการสอนที่ดีัเท่านั้น
แต่ยังเป็นความจําเป็นพื้นฐานสําหรับมนุษย์ด้วย บอเม สเตอร์(Baumeister, 1991)
กล่าวว่า ชีวิตมีความหมายเมื่อเราสนองความต้องการ 4 ประการ เหล่านี้ได้แก่1)
ด้านวัตถุประสงค์2)ด้านค่านิยม 3) ด้าน ประสิทธิผล และ4) ด้านความพึง พอใจในตนเอง
การทบทวนตนเองหลังการสอนช่วยให้เราเข้าใจการเรียนการสอน
คําว่า“การทําความ เข้าใจ” Weick, (1995) กล่าวว่า
การทําความเข้าใจเป็นความคิดและกระบวนการที่ซับซ้อน
“ความเข้าใจ” ยังหมายถึง การเพิ่มความระมัดระวังในการมีปฏิสัมพันธ์ในกลุ่มและใน
สภาวะ แวดล้อมที่เราสอน ชั้นเรียนของเราเป็นสภาวะแวดล้อมของการเรียนการสอนที่พิเศษ
เพราะเราสร้างสภาวะ
แวดล้อมขึ้นมาและเราก็สามารถแกไขเปลี่ยนแปลงได้้แต่อยางไรก่็ตาม
สภาวะแวดล้อมที่มีผลกบวิธีการสอนั ของเราด้วย เชน่ ในห้องเรียนขนาดเล็กและแออัดกิจกรรม
ที่ทําได้ก็จะเป็นเพียงประเภทที่ไม่ต้องใช้โต๊ะ
“ความเข้าใจ”
มิได้เป็นเพียงกระบวนการสนทนากบตัวเองเกั่ียวกบเรื่องการสอนเทั่านั้นแต่
เก่ียวข้อง กบการได้ความรู้จากการสนทนากับเพื่อนครูด้วยกันั
และเปลี่ยนประสบการณ์กนและั กนั กระบวนการนี้เป็น
กระบวนการต่อเนื่องที่ต้องการความเป็นคนช่างสังเกต ต้องสังเกตความ
เป็นไปในอาชีพถ้าเห็นว่ามีอะไร เกิดขึ้น
ต้องหาเหตุผลมาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นได้เช่น ต้อง
สังเกตเห็นว่าเด็กคนไหนพูดคุยกนอยูัตลอดเวลา่
เด็กคนไหนจับดินสอไม่ถูกวิธีคนไหนรักการ อ่าน คนไหนเก่งทดลองวิทยาศาสตร์และคนไหนใช้เครื่อง
บันทึกเทปได้เก่ง
การทบทวนตนเองหลังการสอนจึงเป็นเรื่อง“การทําความเข้าใจ”
ดังภาพประกอบที่7
ภาพประกอบที่7
การทําความเข้าใจ การทบทวนตนเองหลังการสอน ผลลัพธ์ที่มีคุณค่า ปรับจากAnthony
Ghave and Kay Ghaye (1998) Teaching and learning through critical
reflective practice อุสุมา ชื่นชมพู ผู้แปล2546:
22)
รูปแบบการสะท้อนความคิดนี้มีลักษณะเด่น 4
ประการ คือ เป็นวงจรมีความยืดหยุน่ มี
ประเด็นที่ เน้น และมีลักษณะเป็ นองค์รวม
1. มีลักษณะเป็นวงจรการทบทวนตนเองและการปฏิบัติเป็นกระบวนการที่ดําเนินต่อเนื่องกนั
เป็นวงจรเมื่อกระบวนการเริ่มแล้วจะไม่มีการถอยหลังกลับไปสู่จุดเริ่มต้น พูดให้
ชัดเจนยิงขึ่้นก็คือ การทบทวนตนเองหลังการสอน
จะนําเราไปสู่วงจรใหม่ที่ปรับปรุงแล้วต่อไป
2. มีความยืดหย่นุ
รูปแบบที่จะนําใช้จําเป็นจะต้องมีความยืดหยุน่ จะต้องไม่เป็นแบบที่มี ลักษณะ
เป็นขั้นตอน เหตุผลที่เป็นเช่นนี้มีอยู่2 ประการ คือ
ประการแรก
การทบทวนตนเองหลังการสอนมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกนั เช่น
ครูคนหนึ่งอาจจะเริ่มต้นเมื่อเกิดความรู้สึกคับข้องใจที่ไม่สามารถใช้วิธีการที่ตนเอง
ต้องการเพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนได้เนื่องจากเพื่อน
แตกต่างกนั ออกไป พวกเขาไม่เข้าใจว่าวิธีการนี้จะใช้ให้สัมฤทธิ์ผลได้อยางไร่
ครูอีกคนหนึ่งอาจคิดทบทวนสิ่งซึ่งเขาได้ทดลองใช้กบนักเรียนของเขา(งานเขียนซึ่งครูั
และนักเรียนทําร่วมกน)และคิดวั่าเหตุใดจึงไม่ได้ผลคู่อีกคนหนึ่งอาจเริ่มจากสิ่งที่เชื่อว่า
จําเป็นต้องใช้
(เขาต้องการเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียน)
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถหามาได้
ครูอีกคนหนึ่งที่สอนอยูในโรงเรียนเล็กๆ่
ในชนบทอาจต้องการสร้างความสัมพันธ์กบั คนอื่นๆ ในละแวกเดียวกนั
ตลอดจนกบธุรกัิจต่างๆ หรือบริษัทห้างร้านในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น
จุดเริ่มต้นที่แตกต่างกนมาจากคั่านิยมของครูและวิธีการทํางานของครูในการที่จะผลักดันสิ่ง
ต่างๆ ให้เกิดขึ้น และ จะมปรงสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น
หรือค่านิยมเก่ียวกบโรงเรียนในชุมชนที่กว้างขึั้น
ประการที่สอง
รูปแบบการทบทวนตนเองต้องมีความยืดหยุนเพื่อให้สอดคล้องก่บวิธีการ
การปรับปรุงการเรียนการสอนไม่จําเป็นต้องดําเนินไปในรูปแบบที่คงที่และมีขั้นตอนเป็น
ลําดับ เช่น
ครูคนหนึ่งอาจเลือกที่จะทบทวนวิธีการสอนของเขาก่อน
สิ่งหนึ่งที่เขาอาจจะเรียนรู้จาก การทบทวนตนเองก็คือ
เขาเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดเองทําเองน้อยเกินไป เขามักจะคอยชี้แนะ ควบคุม และ
สอนหรือบอกเด็กตรงๆ เมื่อรู้เช่นนี้เขาอาจลองทบทวนคานิยมหรือความเชื่อของ ตนเอง
(หากต้องการ เปลี่ยนแปลงวิธีสอน) แล้วหลังจากนั้นอาจจะทบทวนต่อไปว่าจะปรับปรุง
การสอนและการเรียนรู้ของเด็กอยางไร่
ครูคนอื่นอาจจะเริ่มที่การทบทวนถึงสภาวะแวดล้อมซึ่งก็คือโรงเรียนที่เขาสอน
โรงเรียน อาจจะตั้งอยูในย่านยากจนชานเมือง่
ความสัมพันธ์ระหว่างครูและผู้ปกครองอาจจะไม่ค่อยมีใน
กรณีเช่นนี้ควรจะต้องมีการพัฒนาความสัมพันธ์กบชุมชนั
และโรงเรียนจะต้องเพิ่มบทบาทของ ตนเอง ต้องหาเงิน เพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาบุคลากร เป็นต้น
จากการทบทวนสภาวะแวดล้อมอาจจะ ตามมาด้วยการพิจารณาว่าสภาวะ
แวดล้อมมีผลกระทบต่อการสอน ได้อยางไรบ้าง่ ซึ่งอาจจะ
ย้อนไปสู่เรื่องค่านิยมของครูและโรงเรียนใน ภาพรวม ดังนั้นค่านิยม
การปฏิบัติการปรับปรุง และสภาวะแวดล้อม จึงเป็นสิ่งสําคัญที่จะต้องทบทวน ส่วน ลําดับขั้นตอนในการคิดนั้นแตกต่าง
กนออกไปในแตั่ละบุคคล
3. มีประเด็นที่เน้นกามีความยืดหยุน่
มิได้หมายความว่าจะคิดวกวนอยูก่บปัญหาเกั่ียวกบั
การสอนหรือวิตกกงวลในเรื่องดังกลั่าวโดยหวังว่าครูจะพบทางออกเอง
การคิดจะต้องมีประเด็น ที่เน้นและมีทิศทางเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีความหมาย
ในการนี้ควรใช้รูปที่1.1 เป็ นแผนที่เพื่อช่วยชี้ทิศทางและจํากดความสนใจั
รูปแบบดังกล่าวจะช่วยให้เห็นทิศทางโดยรอบ และเห็น หนทางต่างๆ
ที่อยูเบื่้องหน้าช่วยให้เข้าใจ จุดสําคัญทางการศึกษาที่จําเป็นจะต้องสํารวจ
รูปแบบ นี้มีส่วนที่ควรจะพิจารณา 4 จุด คือ ค่านิยม
การปฏิบัติการปรับปรุงและสภาวะแวดล้อม โดยครู จะเลือกพิจารณาุดใดก็ได้ขึ้นอยูกับความสนใจั แผนการพัฒนาอาชีพของตนเอง และปัญหา
ต่าง ๆ
4. มีลักษณะเป็
นองค์รวมจากรูปนี้เราจะมองเห็นการเรียนการสอนภาพรวม เห็นการ เชื่อมโยง
ค่านิยมในวิชาชีพเข้ากบการปฏิบัติัการเชื่อมโยงการสอนเข้ากบความตัั้งใจของครูที่จะ
พัฒนาการเรียนรู้และนาอาชีพ
ทําให้ครูเห็นว่าไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปแบบนี้ทํางานอยู่
ในสภาพหยุดการเปลี่ยนแปลง
แต่เป็นการทํางานอยูในสภาวะแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงและ่
มักจะมีความไม่แน่นอนรวมอยูด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น